กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
การประชุมในครั้งนี้มีผู้แทนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุขของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำนวน 6 ประเทศได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และไทย เข้าร่วมการประชุม onsite จำนวน 40 คน และประเทศที่เข้าร่วมการประชุม online ได้แก่ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ติมอร์-เลสเต เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มัลดีฟส์ จีน และไทย จำนวน 45 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรระหว่างประเทศ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของการประชุมได้แก่ WHO-SEARO WHO-WPRO และ UNEP-ROAP โดยมีผู้แทนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นประธานการประชุม
ที่ประชุมฯ หารือการดำเนินงานในอนาคตของ Asia Pacific Regional Forum on Health and Environment) (APRFHE และ TWGs โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
1. กลไกการดำเนินงาน APRFHE งบประมาณ และการติดตามตรวจสอบที่ประชุมมีข้อเสนอให้ประธานของ APRFHE ร่วมกับฝ่ายเลขานุการทบทวนกรอบแนวทางความร่วมมือ (Framework for Cooperation และเวียนให้ประเทศสมาชิก ให้ความเห็นและนำเข้าการประชุม Joint-Secretariat Meeting ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2567 โดยจะเชิญประเทศไทยในฐานะที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรี และประธานคณะทำงานวิชาการ (TWGs) เข้าร่วมประชุมในรูปแบบ hybrid
2. กลไกการดำเนินงานคณะทำงานวิชาการ (Thematic Working Group:TWGs) ที่ประชุมได้มีการทบทวนและเห็นชอบในการตั้งคณะทำงานวิชาการ จำนวน 6 ชุด
3. การเสนอชื่อประเทศที่จะเป็นประธานของ APRFHE ในสมัยถัดไป (2568-2572) ที่ประชุมเสนอให้ประเทศสมาชิกกลับไปทบทวนเอกสารการประชุมเพื่อประกอบการ พิจารณาตัดสินใจเสนอตัวประธานของ APRFHE ในสมัยถัดไป (2025-2029)
4. กำหนดจัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สมัยที่ 12 (12th HLOM) และการจัดประชุมระดับรัฐมนตรี ของ APRFHE สมัยที่ 5 (5 Ministerial Meeting on APRFHE) โดยจะเป็นการ จัดประชุมต่อเนื่อง (back-to-back) ประมาณช่วงเดือนกันยายน/ตุลาคม ปี 2567