การประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนการพัฒนา อนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานบริการการสาธารณสุข (ด้านการจัดการของเสียทางการแพทย์)

            การประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนการพัฒนา อนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานบริการการสาธารณสุข (ด้านการจัดการของเสียทางการแพทย์)

           สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนการพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานบริการ
การสาธารณสุข (ด้านการจัดการของเสียทางการแพทย์) ระหว่างวันที่ 11 - 12 มกราคม 2567 ณ ห้องประชุมชิต ชัยวงศ์ สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย และผ่านระบบประชุมทางไกล (Teleconference) โดยมีนายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์ รักษาการนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) เป็นประธานการประชุมฯ วัตถุประสงค์การประชุมเพื่อพัฒนา ขีดความสามารถแก่ภาคีเครือข่ายและสร้างความเข้าใจต่อทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital Challenge ระดับท้าทาย ด้านการจัดการของเสียทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์อนามัยที่ 1 – 12 สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หน่วยงานส่วนกลาง กรมอนามัย และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งหมด 1,200 คน
         หัวข้อการประชุมฯ มุ่งเน้นการเสริมสร้างองค์ความรู้ ทักษะเกี่ยวกับการจัดการของเสียทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ได้แก่ หลักการจัดการของเสียทางการแพทย์ การจัดทำฐานข้อมูล การวิเคราะห์สถานการณ์ การบ่งชี้ปัญหา การคาดการณ์ของเสียทางการแพทย์ แนวทางการจัดการมูลฝอยทั่วไป มูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน รวมถึงเทคโนโลยี/นวัตกรรม และแนวคิดการพัฒนาการจัดการของเสียทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากตัวอย่างโรงพยาบาลสุรินทร์ ที่พัฒนาโรงพยาบาลสู่สถานบริการการสาธารณสุข GREEN & CLEAN Hospital Challenge (ระดับท้าทาย) ด้านการจัดการของเสียทางการแพทย์ และ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ ที่มีการจัดการวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตจากพีวีซี สู่วัสดุรีไซเคิล ภายใต้แนวคิด ลดมลพิษ ลดโลกร้อน สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้ โรงพยาบาลสามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาและยกระดับการจัดการของเสียทางการแพทย์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงสามารถลดปริมาณ/อัตราการเกิดของเสียทางการแพทย์ และจัดการของเสียทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป